ศาลปกครองดีขึ้นกว่าเดิมบังคับคดีให้ ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’ กลับเข้ารับราชการ

ศาลปกครองดีขึ้นกว่าเดิมบังคับคดีให้ ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’ กลับเข้ารับราชการไว้ก่อน ข้างหลังถูกให้ออก เงื่อนเผาสินทรัพย์ราษฎรบางกลอย
.
วันที่ 2 ส.ค. ผู้รายงานข่าวแถลงการณ์ว่า ตอนวันที่ 27 เดือนกรกฎาคมก่อนหน้านี้ ศาลปกครองเพชรบุรีมีคำบัญชาดีขึ้นการบังคับคดีให้ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตกาลหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แล้วก็ตำแหน่งในที่สุดก่อนถูกให้ออกจากราชการเป็น ผู้อำนวยการสำนัก ขึ้นอยู่กับสำนักบริหารพื้นที่สงวนที่ 9 กลับเข้ารับราชการไว้ก่อนชั่วครั้งชั่วคราว ตราบจนกระทั่งศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือคำบัญชาเป็นอันอื่น
.
ข้างหลังก่อนหน้าที่ผ่านมาแผนกอนุกรรมการข้าราชการ (อำเภอเดือนกุมภาพันธ์) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแล้วก็สภาพแวดล้อม (นายทหารคนสนิท) ลงความเห็นปลดชัยวัฒน์ออกมาจากราชการ ข้างหลังคณะกรรมการคุ้มครองแล้วก็ปราบการโกงในภาครัฐ (เปรียญเปรียญท.) ชี้มูลความไม่ถูก ฐานปฏิบัติภารกิจโดยไม่ถูกต้อง ตามมายี่ห้อ 157 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยการเผาทำลายสินทรัพย์ของประชาชนบางกลอยในป่าแก่งกระจาน
.
โดยคำสั่งโดยศาลกำหนดสาระสำคัญว่า คำบัญชากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งสภาพแวดล้อมที่ 132/2564 ระบุวันที่ 2 เดือนเมษายน 2564 ที่ลงอาญาปลดผู้ฟ้องออกมาจากราชการ อันต่อเนื่องมาจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ได้ลงความเห็นชี้มูลดังที่กล่าวถึงแล้ว โดยมิได้ทำงานแต่งคณะกรรมการสอบปากคำระเบียบอย่างร้ายแรงตามพ.ร.บ.ระเบียบปฏิบัติเจ้าหน้าที่รัฐ พุทธศักราช 2551 ก่อนบัญชาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ก็เลยมีเหตุอันควรจะสงสัยว่า คำบัญชาของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่เป็นเหตุที่การฟ้องศาลนี้คงจะไม่เป็นไปตามกฎหมาย
.
ทั้งการให้คำบัญชาดังที่กล่าวถึงแล้วส่งผลใช้บังคับถัดไป ย่อมส่งผลให้ผู้ฟ้องร้องคดีจำต้องพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐขึ้นตรงต่อของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ซึ่งเว้นเสียแต่ผู้ฟ้องร้อง (ชัยวัฒน์) จะได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการมิได้รับเงินเดือน สิทธิประโยชน์ แล้วก็ผลประโยชน์ต่างๆตามสิทธิที่ควรมีพึงจะได้ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว ผู้ฟ้องร้องคดียังจำเป็นต้องขาดช่องทางและก็ความรุ่งเรืองในตำแหน่งงานราชการ
.
ซึ่งขณะยื่นคำฟ้องนี้ผู้ฟ้องศาลยังเหลือช่วงเวลารับราชการได้อีกไม่เกิน 2 ปีแค่นั้น แม้ศาลได้มีคำตัดสินเลิกคำบัญชาที่วิวาทในตอนหลัง ผู้ฟ้องร้องบางทีอาจไม่มีช่องทางได้กลับเข้ารับราชการอีก และก็ในระหว่างการพินิจพิเคราะห์คดี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 บางทีอาจปฏิบัติงานคัดเลือกบุคคลอื่นมาดำรงตำแหน่งชดเชยผู้ฟ้องร้องคดี
.
กรณีนี้ก็เลยเป็นความลำบากเสียหายที่ยากแก่การรักษาปรับแก้ในวันหลัง ถึงแม้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 แล้วก็ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จะได้โต้วาทีปฏิเสธว่า แม้ตอนหลังศาลมีคำตัดสินล้มเลิกคำบัญชาที่ลงทัณฑ์ปลดผู้ฟ้องออกมาจากราชการแล้ว ผู้ฟ้องร้องคดีสามารถฟ้องคดีเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 แล้วก็ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้นั้น มีความเห็นว่าค่าชดเชยที่เป็นตัวเงินย่อมไม่บางทีอาจเทียบเคียงได้กับเกียรติ กิตติศัพท์ แล้วก็ความรุ่งโรจน์ในชีวิตราชการของผู้ฟ้องร้องคดีที่จำเป็นต้องสูญเสียไปเนื่องจากว่าการออกคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ประกอบกับคำอธิบายของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และก็ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่แจกแจงว่าได้มีคำบัญชาที่ 439/2564 ระบุวันที่ 14 เดือนธันวาคม 2564 แต่งข้าราชการสามัญมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก (ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (วิชาการป่าดง)) ชั้นสูง สำนักบริหารพื้นที่สงวนที่ 9 ไปแล้ว อันเป็นการทำให้เห็นว่า ตำแหน่งที่ผู้ฟ้องศาลยังอยู่นั้นมีความจำเป็นซึ่งๆหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับการดูแลรักษา ป้องกันทรัพยากรธรรมชาติของประเทศของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ก็เลยไม่บางทีอาจให้ตำแหน่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่างลงเป็นระยะเวลานานได้
.
ทั้งผู้ฟ้องได้อธิบายว่า ขณะครอบครองตำแหน่งดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วผู้ฟ้องศาลได้ปฏิบัติภารกิจสำหรับเพื่อการจับตัวรวมทั้งกำจัดผู้ทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าดงปริมาณ 474 คดี ซึ่งเสร็จ 64 คดี รวมทั้งยังมีคดีที่ยังไม่สิ้นสุดอีก 386 คดี ที่ผู้ฟ้องบางทีอาจจะต้องไปเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ในชั้นพิจารณาคดีของศาลด้วยตัวเอง
.
กรณีนี้ก็เลยมองเห็นได้ว่า ผู้ฟ้องศาลยังคงมีบทบาทโดยตลอดเพื่อภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า รวมทั้งพืชพันธุ์ ขึ้นอยู่กับผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 สำเร็จลุล่วงด้วยดี
.
โดยเหตุนี้ การให้ดีขึ้นการบังคับตามคำสั่งทางดูแลที่โต้เถียงโดยให้ผู้ฟ้องครอบครองตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก (ผู้อำนวยการระดับที่ถือว่าสูง) ขึ้นอยู่กับสำนักบริหารพื้นที่สงวนที่ 9 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า รวมทั้งพืชพันธุ์ ถัดไปชั่วครั้งชั่วคราว กระทั่งศาลจะมีคำตัดสินหรือคำบัญชาเป็นอันอื่นนั้น ย่อมมีประโยชน์แก่การจัดการงานหรือบริการสาธารณะของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และก็ไม่ได้เป็นปัญหาแก่การจัดการงานของเมือง หรือการบริการสาธารณะของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 อะไร
.
กรณีนี้ก็เลยมีเหตุอันเหมาะที่ศาลปกครองจะมีคำบัญชาดีขึ้นการบังคับตามคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและก็สภาพแวดล้อม ที่ 132/2564 ระบุวันที่ 2 ม.ย. 2564 ที่ลงทัณฑ์ปลดผู้ฟ้องร้องออกมาจากราชการไว้ชั่วครั้งชั่วคราว จวบจนกระทั่งศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือคำบัญชาเป็นอันอื่น
.
ก็เลยมีคำบัญชาดีขึ้นการบังคับตามคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งสภาพแวดล้อม
ที่ 132/2564 ระบุวันที่ 2 เดือนเมษายน 2564 ที่ลงอาญาปลดผู้ฟ้องออกมาจากราชการไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ตราบจนกระทั่งศาลจะมีคำตัดสินหรือคำบัญชาเป็นอันอื่น